รักษาสิวที่ไหนดี 2024 [แก้ที่ต้นเหตุ] การรักษาสิวในปัจจุบันมีผลเสียกับผิวหน้าเนื่องจากการใช้ยา ซึ่งยาเหล่านี้เมื่อใช้ในระยะยาวจะส่งผลให้ร่างกายได้รับผลกระทบในทางลบ เช่น ปากแห้ง ตาแห้ง เป็นต้น การใช้ยาเพื่อรักษาสิวมักจะเน้นการรักษาที่ปลายเหตุ เมื่อสิวหายก็มีโอกาสที่จะกลับมาเกิดใหม่อีก และเมื่อสิวเกิดขึ้นใหม่ ก็จำเป็นต้องกินยาเพิ่มเติม ซึ่งการกินยาอย่างต่อเนื่องนั้นทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ [Ref. Mayo Clinic] เหตุการณ์ข้างต้นเป็นการวนลูปที่ไม่มีจุดสิ้นสุด การที่จะจัดการกับสิว (acne) ในระยะยาวคือการตัดองค์ประกอบของการเกิดสิวออก นั้นคือการรักษาที่ต้นเหตุ การรักษาสิวที่ต้นเหตุนั้นทำให้ปัญหาสิวลดลงและลดความเสี่ยงในการเกิดสิวใหม่ การรักษาที่ต้นเหตุนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ยาและไม่ต้องฉีดสิว ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง ในปัจจุบันการรักษาสิวที่ต้นเหตุที่เห็นผลที่ชัดเจนคือ โปรแกรมรักษาสิว Acne Clear Plus ที่ Puttharaksa Aesthetic โปรแกรมนี้เน้นการรักษาผิวหน้าให้มีสุขภาพดีและลดการอักเสบของสิวโดยไม่ต้องพึ่งพายาและการฉีดสิว การรักษาด้วยโปรแกรมนี้ช่วยลดการเกิดสิวใหม่ ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน และมีสุขภาพดีในระยะยาว ด้วยเหตุนี้ การรักษาสิวโดยไม่พึ่งพายาและการฉีดสิวจึงเป็นทางเลือกที่ดีและปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว นอกจากจะช่วยให้ผิวหน้าสวยงามแล้ว ยังลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีรักษารอยสิว: 3 วิธีรักษารอยดำรอยแดงจากสิว ที่ได้ผลดีที่สุด เคยสงสัยกันหรือไม่ ว่าทำไมรอยสิว (Acne Scar) ที่เกิดจากสิวเหมือนกัน ถึงมีสีที่แตกต่างกัน บางจุดเกิดรอยที่ขึ้นเป็นสีดำ และบางจุดอาจเกิดรอยที่ขึ้นเป็นสีแดง ซึ่งรอยดำและรอยแดงเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกัน ดังนี้ รอยดำ (Post-Inflammatory Hyperpigmentation: PIH) คือ รอยจุดสีน้ำตาลถึงสีดำ พบในผู้ที่มีสีผิวค่อนไปทางเข้มเพราะผิวมีการผลิตเม็ดสีมากกว่าผู้ที่มีผิวขาว มีสาเหตุมาจากการอักเสบที่ใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งเป็นกลไกที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เป็นสิว โดยที่ร่างกายจะมีการหลั่งสารอักเสบออกมาที่ใต้ผิวหนัง ส่งผลให้มีการผลิตเม็ดสีเมลานินเป็นจำนวนมากในบริเวณที่เกิดการอักเสบ จึงทำให้เกิดเป็นรอยดำและสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ นอกจากนั้นพฤติกรรมการแกะสิว บีบสิว ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดรอยดำ และยังมีแสงแดดที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้รอยดำจากสิวมีสีเข้มขึ้น รอยแดง (Post-Inflammatory Erythema: PIE) คือ รอยจุดสีชมพูถึงแดง พบในผู้ที่มีผิวค่อนข้างขาวหรือผู้ที่มีผิวบาง เกิดขึ้นในขณะที่เป็นสิวหรือหลังจากที่รักษาสิวหายแล้ว และพฤติกรรมการบีบ แคะ แกะสิวจนเกิดอาการบวมช้ำ อักเสบ และมีรอยแดงเกิดขึ้น เกิดจากกลไกภายในร่างกายเริ่มฟื้นฟูตัวเอง โดยการลำเลียงเลือดไปยังบริเวณที่ผิวหนังเกิดการอักเสบ เพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์เนื้อเยื่อ ซึ่งทำให้หลอดเลือดที่อยู่ภายใต้ผิวหนังบริเวณที่เกิดกระบวนการฟื้นฟูขยายตัว ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นกลายเป็นสีแดง ชมพู หรือสีม่วง  วิธีรักษารอยดำ และรอยแดงจากสิว รอยดำและรอยแดงจากสิวที่มีสาเหตุการเกิดที่แตกต่างกันนั้น ทำให้มีวิธีการดูแลรักษาที่แตกต่างกันไปด้วย ซึ่งระยะเวลาการรักษาขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความเข้มของรอยสิวที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล …

วิธีรักษารอยสิว: 3 วิธีรักษารอยดำรอยแดงจากสิว ที่ได้ผลดีที่สุด Read More »

กดสิวดีไหม: สิวอุดตันควรกดออกหรือไม่ สิว (Acne) ถือเป็นปัญหาผิวของใครหลาย ๆ คน สาเหตุการเกิดสิวนั้นเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปัจจัยภายในร่างกายอย่างฮอร์โมน ภาวะความเครียด หรือช่วงมีประจำเดือน และปัจจัยภายนอก อย่างสภาพอากาศ มลภาวะ และในปัจจุบันการใส่แมสก์ก็ถือเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดสิวได้เช่นกัน เมื่อเป็นสิวแล้ว ทุกคนต่างหาวิธีรักษาสิว ให้ปัญหาสิวดีขึ้นและไม่กลับมาเป็นใหม่ ในที่นี้จะพูดถึงการรักษาสิวอุดตัน(Comedones) ด้วยการกดออก ลักษณะสิวอุดตัน สิวอุดตัน (Comedones) คือ สิวที่ไม่อักเสบ มีลักษณะเป็นสิวหัวนูนออกมาจากผิวหนัง เมื่อจับไปจะรู้สึกถึงความไม่เรียบเนียน ซึ่งเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนบนผิวหนัง จากการที่ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไปจนผิดปกติ แล้วไปจับตัวรวมกับเซลล์ผิว หรือสิ่งสกปรกที่อยู่ในรูขุมขน ทั้งละอองฝุ่น หรือเครื่องสำอาง จนทำให้เกิดการอุดตันขึ้น มักพบได้2 ลักษณะ คือ 1. สิวอุดตันหัวดำหรือสิวหัวเปิด เป็นสิวที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กน้อย และมีจุดดำอยู่ตรงกลางของหัวสิว ซึ่งสาเหตุที่สิวเป็นสีดำเนื่องจากการที่ท่อไขมันขยายตัวและมีเคราติน เมลานิน และไขมัน เกิดการทำปฏิกิริยากันกับอากาศ อัดแน่นกันอยู่ จึงเห็นเป็นสีดําคล้ายกับสิวเสี้ยน 2. สิวหัวขาวหรือสิวหัวปิด มีลักษณะเป็นตุ่มนูนสีเดียวกันกับสีผิวหรืออาจเป็นสีขาวขนาดเล็ก ซึ่งจะเห็นชัดเจนขึ้นเมื่อดึงผิวหนังให้ตึง หรือโดยการคลำและสัมผัส สิวอุดตันประเภทนี้เกิดจากการอุดตันภายในรูขุมขน …

กดสิวดีไหม: สิวอุดตันควรกดออกหรือไม่ Read More »

สาเหตุของสิวเสี้ยน: สิวเสี้ยนเกิดได้อย่างไร สิวเสี้ยน (Trichostasisspinulosa) คือความผิดปกติของต่อมรูขน (Pilosebaceous Follicles) โดยมีลักษณะคล้ายสิวอุดตันหัวดำ (Black Comedone) และมีกระจุกขนเล็ก ๆ หลายเส้น แทรกอยู่ในหัวสิวอุดตันนั้น จึงทำให้มีลักษณะเป็นจุดดำเล็ก ๆ บนใบหน้าหรืออาจมีหนามแหลมยื่นออกมาทางรูขุมขนจำนวนมาก มักจะพบและสังเกตเห็นได้ง่ายในบริเวณจมูก หน้าผาก ข้างแก้ม และบริเวณคาง สิวเสี้ยนที่มักพบเห็นได้บ่อยมีอยู่ 2 แบบ คือ –สิวเสี้ยนหัวขาว เกิดจากไขมัน (sebum) รวมตัวกับเศษเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เกิดการอุดตันบริเวณรูขุมขน สามารถพบได้ตามบริเวณที่มีความมันมาก ๆ เช่นบริเวณทีโซน (T-Zone หน้าผาก จมูก คาง) และบริเวณข้าง ๆ จมูก เป็นต้น –สิวเสี้ยนหัวดำ เกิดจากการมีขนเส้นเล็ก ๆ ตั่งแต่ 5-50 เส้น รวมกันอยู่ในรูขุมขนเดียวกัน ทำให้เห็นรูขุมขนกว้าง และสังเกตเห็นจุดดำ ๆ โผล่ขึ้นมาจากผิว สาเหตุการเกิดสิวเสี้ยน สาเหตุของการเกิดสิวเสี้ยนนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่แพทย์เชื่อว่าอาจเกิดจาก …

สาเหตุของสิวเสี้ยน: สิวเสี้ยนเกิดได้อย่างไร Read More »

วิธีรักษาสิว: แนวทางการรักษาสิว ตามระดับความรุนแรง ขั้นตอนแรกก่อนการเริ่มรักษาสิว (acne) คือ การประเมินระดับความรุนแรงของสิวและสภาพผิวเบื้องต้น เพื่อที่จะได้ทราบถึงปัญหาสิวที่กำลังเผชิญอยู่ว่ามีแนวทางในการรักษาที่เหมาะสมอย่างไร โดยระดับความรุนแรงของสิวสามารถแบ่งตามความรุนแรงได้ดังนี้ 1. ระดับความรุนแรงน้อย คือ สิวอุดตันและสิวอักเสบที่ขึ้นไม่เกิน 10 จุดบนใบหน้า โดยความรุนแรงระดับนี้สามารถรักษาสิวด้วยตัวเองได้ ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า หรือสกินแคร์ ที่เหมาะสำหรับผิว และมีส่วนผสมสำคัญที่ช่วยลดการเกิดสิว 2. ระดับความรุนแรงปานกลาง คือ สิวที่มีลักษณะบวมแดง เป็นตุ่มแดงหรือตุ่มหนอง โดยมีมากกว่า 10 จุดบนใบหน้า การรักษาสิวในระดับนี้อาจต้องเข้ารับการรักษาโดยการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือแพทย์ผิวหนัง เพื่อให้ได้รับคำแนะนำ และวิธีการรักษาที่เหมาะสม เพราะในบางกรณีอาจมีการใช้ยาสำหรับทานเพื่อรักษาร่วมด้วย 3. ระดับความรุนแรงมาก คือ สิวที่มีลักษณะบวมแดง เป็นตุ่มหนอง ร่วมกับตุ่มแดงนูนขนาดใหญ่ทั่วใบหน้าการรักษาสิวในระดับนี้ต้องรักษาตามแบบสิวระดับความรุนแรงปานกลาง ซึ่งคือการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ผิวหนังก่อนเริ่มทำการรักษาต่อไป การรักษาสิว การรักษาสิว โดยทั่วไปคือการป้องกันการเกิดสิวใหม่ และลดการอักเสบของสิวเก่า ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาในการรักษา ปัจจุบันการรักษาสิวมีให้เลือกหลากหลายวิธี ซึ่งจะเลือกใช้วิธีรักษาแบบใดขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิวในขณะนั้นยกตัวอย่างวิธีรักษาสิวในปัจจุบัน มีดังนี้ 1. การรักษาสิวโดยการกดสิว เป็นการบีบผิวบริเวณที่เป็นสิว แล้วใช้เข็ม หรืออุปกรณ์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อเจาะผิวหนังให้หนอง ของเหลว หรือสิ่งที่อุดตันอยู่ภายในสิว …

วิธีรักษาสิว: แนวทางการรักษาสิว ตามระดับความรุนแรง Read More »

ประเภทของสิว และสาเหตุของการเกิดสิว สิว (acne) คือ การอุดตันของระบบต่อมไขมันในรูขุมขน โดยปกติแล้วไขมันที่สร้างจากต่อมไขมันจะออกมาตามรูขุมขน หากมีการอุดตันก็จะทำให้เกิดสิวอุดตัน ซึ่งจะพบเป็นลักษณะตุ่มเม็ดเล็ก ๆ ที่มีลักษณะเป็นไตสีขาวอยู่ข้างใน หากมีตัวกระตุ้นเพิ่มเติม เช่น แบคทีเรีย ก็อาจจะทำให้เกิดการอักเสบได้ ประเภทของสิว สามารถแบ่งประเภทของสิวตามลักษณะที่พบเห็นได้  2 ประเภท คือ 1.สิวที่ไม่มีการอักเสบ เช่น สิวอุดตันหัวขาว (สิวอุดตันหัวปิด) สิวอุดตันหัวดำ (สิวอุดตันหัวเปิด) 2.สิวที่มีการอักเสบ เช่น สิวที่เป็นตุ่มแดง (สิวอักเสบ) สิวที่มีหนอง (สิวตุ่มหนอง) สิวอักเสบขนาดใหญ่ (สิวหัวช้าง) และสิวที่มีการทำลายของผิวข้างในจนเป็นโพรงคล้ายซีสต์ สาเหตุของการเกิดสิว ยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดสิวได้อย่างแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย และยังมีปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น กรรมพันธุ์ อารมณ์ อาหาร อากาศ และยา เป็นต้น ซึ่งสามารถแบ่งปัจจัยหลัก ๆ ได้เป็น 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยภายในร่างกาย และปัจจัยภายนอกร่างกาย …

ประเภทของสิว และสาเหตุของการเกิดสิว Read More »

วิธีกำจัดสิวเสี้ยนและการป้องกัน สิวเสี้ยน (Trichostasis Spinulosa) คือ ความผิดปกติของต่อมรูขุมขน (pilosebaceous follicles) โดยมีลักษณะคล้ายสิวอุดตันหัวดำ (black comedone) และมีกระจุกขนเล็ก ๆ หลายเส้นแทรกอยู่ในหัวสิวอุดตัน จึงทำให้มีลักษณะเป็นจุดดำเล็ก ๆ บนใบหน้า หรืออาจมีหนามแหลมยื่นออกมาทางรูขุมขนจำนวนมาก สังเกตเห็นได้ง่ายที่บริเวณปลายจมูก หน้าผาก ข้างแก้ม และบริเวณคาง วิธีการรักษาสิวเสี้ยน การรักษาสิวเสี้ยน เน้นไปที่การกำจัดกลุ่มขนสิวเสี้ยนออก เพื่อให้จุดดำของสิวเสี้ยนบนใบหน้าหรือผิวหนังหายไป โดยวิธีรักษาสิวเสี้ยน มีดังนี้ 1. การทายารักษาสิวเสี้ยน – การใช้กรดวิตามินเอ (retinoic acid) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยละลายการอุดตันของต่อมไขมัน ลดการเกาะตัวของเซลล์ผิวหนังที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์บริเวณรูขุมขน จึงป้องกันการเกิดสิวเสี้ยนใหม่ และทำให้สิวเสี้ยนหลุดออกได้ง่าย  ข้อควรระวังคือ กรดวิตามินเอ ทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนังได้ง่าย อาจทำให้ผิวแห้ง แสบ ลอก และหน้าแดงได้ จึงควรทากรดวิตามินเอเฉพาะบริเวณที่มีสิวเสี้ยนเพียงวันละครั้งก่อนนอน โดยส่วนมากมักจะเริ่มเห็นผลใน 3-4 เดือน และควรใช้ครีมกันแดดทุกครั้งในเวลากลางวัน เพื่อลดการระคายเคืองจากแสงแดด เพราะการทากรดวิตามินเอจะทำให้ผิวหน้าไวต่อแสงมากกว่าปกติ – การใช้ยาทากลุ่มเบนซิลเปอร์ออกไซด์ (benzoyl …

วิธีกำจัดสิวเสี้ยนและการป้องกัน Read More »